เกาะบูบู...จังหวัดกระบี่
สถานที่ตั้งหมู่เกาะลันตา อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ สิ่งดึงดูดใจเกาะบูบูเป็นเกาะส่วนตัวเล็กๆ มีเนื้อที่ประมาณ 30 ไร่เศษ เป็นสถานที่สงบสวยงามด้วยธรรมชาติที่แวดล้อมด้วยทะเล ภายในเกาะมีทางเดินเท้าชมวิวและชมป่า ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์หลายชนิด เช่น ไก่ป่า ลิง แย้ และนกนานาพันธุ์ โดยเฉพาะนกเงือก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ของป่า
รอบเกาะมีโขดหินและหาดทรายสีทอง เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลทุกชนิด เช่น ปลิงทะเล หอยชนิดต่างๆ เป็นต้นว่า หอยนางรม หอยโล๊ะและหอยเสียบหรือหอยทราย ในช่วงที่นํ้าขึ้นสามารถว่ายนํ้าหรือพายเรือแคนู ชมทิวทัศน์รอบเกาะได้สิ่งอำนวยความสะดวกด้วยเหตุผลเชิงอนุรักษ์
โดยสารเรือได้เพียงทางเดียวโดยใช้เส้นทางดังนี้
(๑)นั่งรถจากตัวเมืองกระบี่ ไปทางเกาะลันตาแล้วโดยสารเรือจากเกาะลันตาไปเกาะบูบู
(๒) นั่งรถจากตัวเมืองกระบี่ถึงท่าเรือบ่อม่วง บ้านทรายขาว
จังหวัดกระบี่ แล้วโดยสารเรือจากบ่อม่วงถึงเกาะบูบู
(๓) นั่งรถจากตัวเมืองกระบี่ ถึงท่าเรือบ้านโล๊ะใหญ่แล้ว
โดยสารเรือจากบ้านโล๊ะใหญ่ถึงเกาะบูบู
(๔)นั่งเรือจากตัวเมืองกระบี่ถึงหลังเกาะลันตาแล้วนั่ง
รถมอเตอร์ไซด์รับจ้างจากหลังเกาะลันตาไปหน้าเกาะลันตา
ซึ่งการโดยสารเรือจากเกาะลันตาไปเกาะบูบูเส้นทางสายที่ ๑
จะสะดวกที่สุดเพราะเป็นแหล่งชุมชน ส่วนเส้นทางสายที่ ๒
และ ๓ จะเร็วกว่า หากได้นัดหมายติดต่อให้เรือที่เกาะไปรับ
หรือเหมาเรือไปเอง
หรือสามารถหารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี้คะ http://www.krabiall.com/stories/krabi-stories28.php
ภูชี้ฟ้า อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่อิงฝั่งขวาและป่าแม่งาวจังหวัเชียงราย อยู่ในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ หรือพื้นที่ป่าประมาณ 2,500 ไร่ โดยกรมป่าไม้ได้มีคำสั่งจัดตั้งเป็นวนอุทยานเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2541 ภูชี้ฟ้าเป็นยอดเขาสูงในเทือกเขาดอยผาหม่น ติดชายแดนไทย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 1,200 เมตร ถึง 1,628 เมตร
สำหรับไฮไลท์สำคัญของภูชี้ฟ้า ต้องยกให้จุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม อีกทั้งทิวทัศน์ของภูเขาสลับซับซ้อนดูกว้างไกล โดยในตอนเช้าจะมีทะเลหมอกปกคลุมในหุบเขาเบื้องล่าง มีพระอาทิตย์ขึ้นผ่านพ้นทะเลหมอก ท่ามกลางทุ่งหญ้า แซมด้วยทุ่งดอกโคลงเคลง (ในช่วงฤดูฝนไปจนถึงฤดูหนาว) สวยงามราวกับภาพวาด อย่าบอกใครเชียว!!! และหากรอจนสายหมอกถูกความร้อนระเหยหมดแล้ว ก็ยังคงมองเห็นสายน้ำโขงไหลคดเคี้ยว ท่ามกลางป่าไม้ของฝั่งลาวที่เขียวสุดสมบูรณ์อีกด้วย หากมาเที่ยวภูชี้ฟ้า ในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม เส้นทางขึ้นภูชี้ฟ้าจะผ่านป่าซากุระหรือต้นพญาเสือโคร่งสีชมพูสวยงามมากอีกเช่นกัน
• จากภูชี้ฟ้าสามารถเดินทางไปยังดอยผาตั้ง อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย โดยอยู่ห่างออกไปตามเส้นทางหลวงจังหวัดสาย 1093 เป็นระยะทาง 25 กิโลเมตร และจากดอยผาตั้งยังสามารถเดินทางต่อไปยังอำเภอเชียงของ อำเภอเชียงแสน และอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายได้อีกด้วย
บ้านพัก-บริการ
สถานที่ติดต่อ
• วนอุทยานภูชี้ฟ้า สำนักบริหารจัดการในพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย
โทร. (053) 714914
ตัวอย่างคลิปวีดีโอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวภูชี้ฟ้า
หรือต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://hilight.kapook.com/view/32314
อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย อยู่ตรงบริเวณทางขึ้นพระธาตุดอยสุเทพ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเชียงใหม่ให้ความเคารพอย่างมาก ผู้ที่เดินทางขึ้นดอยสุเทพมักจะแวะนมัสการอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนเดินทางขึ้นดอย อนุสาวรีย์นี้สร้างขึ้นหลังจากที่ครูบาศรีวิชัยมรณภาพแล้วทางราชการและชาวเมืองเชียงใหม่ได้บริจาคทรัพย์ช่วยกัน โดยให้กรมศิลปากรเป็นผู้ออกแบบสร้าง เมื่อแล้วเสร็จได้นำมาประดิษฐานไว้ที่เชิงเขาห้วยแก้วอันเป็นจุดเริ่มต้นขึ้นดอยสุเทพดังที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน
บันไดนาค จากลานจอดรถจะขึ้นสู่พระธาตุ มีบันไดนาคเจ็ดเศียร เป็นปูนปั้นประดับกระจก นักท่องเที่ยวนับแต่อดีตจนปัจจุบันนิยมถ่ายภาพกับเศียรพญานาคเป็นที่ระลึก ว่ากันว่าบันไดนาคมีถึง 306 ขั้น แต่เท่าที่นับได้จริงๆ มี 185 ขั้น ผู้ที่จะขึ้นไปนมัสการพระธาตุต้องเดินขึ้นบันไดนาคนี้ทุกคน
เจดีย์วัดพระธาตุดอยสุเทพ เป็นเจดีย์ทรงเชียงแสน มีฐานสูงย่อมุมระฆังทรงแปดเหลี่ยม และมีบัลลังก์แปดเหลี่ยม ทั้งองค์ปิดด้วยทองจังโก (ดีบุกปิดทอง) บริเวณที่ประดิษฐานองค์เจดีย์ยกพื้นสูงเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีวิหารทิศอยู่ทางด้านตะวันตก มีระเบียงรอบองค์พระธาตุเชื่อมวิหารทั้งสี่องค์ ภายในมีภาพพุทธประวัติ รอบบริเวณสะอาดและร่มรื่น เมื่อมองจากบริเวณเจดีย์ลงมาจะเห็นวิวทิวทัศน์สวยงามของตัวเมืองเชียงใหม่ โดยเฉพาะช่วงหัวค่ำมีแสงไฟจากตัวเมืองระยิบระยับ
ประเพณีเดินขึ้นดอยสุเทพ เป็นประเพณีที่ถือปฏิบัติสืบทอดกันมาแต่อดีต ในคืนก่อนวันวิสาขบูชาของทุกปี ชาวบ้านจะเดินทางด้วยเท้า ถือประทีปธูปเทียนเป็นริ้วขบวน ประกอบด้วยพระสงฆ์ซึ่งเดินนำหน้าขบวน และประชาชนเดินตามหลัง เริ่มขบวนที่บริเวณอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ใกล้กับวัดศรีโสดา ในอดีตจะแวะนมัสการวัดสักกิทาคา และวัดอนาคามี แต่ปัจจุบันวัดทั้งสองร้างไปแล้ว ขบวนจึงเดินขึ้นไปนมัสการที่วัดพระธาตุโดยตรง
ที่เที่ยวอื่น ๆ วัดพระธาตุดอยสุเทพอยู่ในพื้นที่ของ อช.ดอยสุเทพ-ปุย ซึ่งมีที่เที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง เช่น พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ หมู่บ้านแม้วดอยปุย ฯลฯ นักท่องเที่ยวมักนิยมขึ้นไปเที่ยวหลังจากนมัสการพระธาตุแล้ว
รายละเอียดเพิ่มเติม http://www.thailands360.com/Northern/Chiang
สวนผึ้ง เป็นอำเภอหนึ่งของ จังหวัดราชบุรี ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ทั้งป่าไม้ ภูเขา และน้ำตก พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นที่ราบสูง ภูมิประเทศของสวนผึ้งนั้นขนาบด้วยเทือกเขาตะนาวศรี ซึ่งเป็นพรมแดนทางตะวันตกกั้นระหว่างประเทศไทยกับพม่า การเดินทางสะดวก ใช้เวลาเดินทางเพียง 2 ชั่วโมงกว่า ๆ จากกรุงเทพฯ ก็ถึงแล้ว
สถาน ที่ท่องเที่ยวมีความหลากหลาย ทั้งจากธรรมชาติสร้างและฝีมือมนุษย์รังสรรค์ ที่สำคัญมาเที่ยวกันได้ตลอดทั้งปีโดยเฉพาะหน้าหนาวอากาศจะดีมาก ๆ บ้างก็ว่าเหมือนกับอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน บ้างก็ว่าเหมือนประเทศนิวซีแลนด์ ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจก็มีอยู่มากมายหลายแห่ง
บ้านเทียนหอม
เมื่อออกมาจากโป่งยุบตรงมาเรื่อย ๆ ถึงหลักกิโลเมตรที่ 33 เราก็จะได้พบกับสถานที่ท่องเที่ยว ที่อบอวลไปด้วยความหอมละมุนไปทั่วสถานที่ ด้านหน้ามีร้านเสื้อเพ้นท์สดลวดลายสวยงามน่ารัก ใส่แล้วไม่ซ้ำใครแน่นอนเพราะเค้าเพ้นท์มาแบบละตัวเท่านั้น พื้นที่กว้างขว้างมีมุมน่ารัก ๆ ให้โพสต์ท่าถ่ายรูปกันอยู่หลายจุด บริเวณภายในร้านจะจุดเทียนหอมและเปิดเพลงเบา ๆ เพื่อสร้างบรรยากาศในการเดินเล่ นให้ความรู้สึกถึงการพักผ่อนได้เป็นอย่างดี มีการนำของสะสมข้าวของเครื่องใช้ในอดีตมาจัดวาง เพื่อเพิ่มเสน่ห์ให้เราได้ย้อนนึกถึงวันวานกันอีกด้วย
The Scenery Resort & Farm
ขับตรงขึ้นไปจากบ้านหอมเทียน จะเจอสามแยกให้เบี่ยงออกไปทางซ้ายแยกภูผาผึ้งรีสอร์ท ขับตรงไปอีกประมาณ 5 กิโลเมตร เราก็จะได้พบกับสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นที่ที่ทำให้คนรู้จักสวนผึ้งกันอย่างแพร่หลาย The Scenery Resort & Farm รีสอร์ทสวย ที่มีสนามหญ้าเขียวสด ลายล้อมด้วยภูเขาสลับซับซ้อนและฝูงแกะสีขาวหลายสิบตัว ที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างน่ารัก
แน่นอน! กิจกรรมที่พลาดไม่ได้คือ การให้อาหารแกะรวมถึงการถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับน้องแกะนั่นเอง นอกจากนี้ ยังมีมุมสวย ๆ ที่ทางรีสอร์ทได้เซ็ทอัพขึ้นเพื่อให้ได้ถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน แกะที่นี่จะเป็นพันธุ์ผสมชื่อว่า พันธ์คาทาดิน ซึ่งมีความทนต่อสภาพภูมิอากาศ เปิดให้บริการทุกวัน : วันจันทร์-ศุกร์ 10.00-18.00 น. / เสาร์-อาทิตย์ 9.00-18.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทรศัพท์ 08-5488-9905
ธารน้ำร้อนบ่อคลึง
ตรงขึ้นไปจากซีนเนอร์รี่ฯ เจอสามแยกให้เลี้ยวขวาแล้วขับรถตรงขึ้นไปอีก สังเกตซ้ายมือจะมีป้ายธารน้ำร้อนบ่อคลึง ลักษณะเป็นลำธารเล็ก ๆ มีน้ำไหลซึมออกมาจากตาน้ำใต้ดินไม่ขาดสาย ถ้าขึ้นไปดูที่ต้นน้ำจะพบก้อนหินใหญ่เล็กเรียงลายไปมา ดูสวยงามตามธรรมชาติ มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาตะนาวศรี มีน้ำไหลตลอดปี อุณหภูมิของน้ำจะประมาณ 65 องศาเซลเซียส ไม่ร้อนมากพอที่จะต้มไข่สุกได้
บริเวณต้นน้ำจะมีบ่อแยกเก็บน้ำไว้ให้ชาวบ้านดื่ม-กิน จากบ่อดินด้านล่างสามารถเดินไปที่ต้นธารน้ำร้อนประมาณ 150 เมตร ธารน้ำร้อนบ่อคลึงเป็นสถานที่ของเอกชน ผู้ค้นพบ คือ นายประยูร โมนยะ เปิดบริการวันจันทร์-ศุกร์ เปิดตั้งแต่เวลา 08.00–17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00–18.00 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ โทรศัพท์ 0-327- 1086
ต้องการดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://travel.kapook.com/view20110.html
รอบเกาะมีโขดหินและหาดทรายสีทอง เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลทุกชนิด เช่น ปลิงทะเล หอยชนิดต่างๆ เป็นต้นว่า หอยนางรม หอยโล๊ะและหอยเสียบหรือหอยทราย ในช่วงที่นํ้าขึ้นสามารถว่ายนํ้าหรือพายเรือแคนู ชมทิวทัศน์รอบเกาะได้สิ่งอำนวยความสะดวกด้วยเหตุผลเชิงอนุรักษ์
โดยสารเรือได้เพียงทางเดียวโดยใช้เส้นทางดังนี้
(๑)นั่งรถจากตัวเมืองกระบี่ ไปทางเกาะลันตาแล้วโดยสารเรือจากเกาะลันตาไปเกาะบูบู
(๒) นั่งรถจากตัวเมืองกระบี่ถึงท่าเรือบ่อม่วง บ้านทรายขาว
จังหวัดกระบี่ แล้วโดยสารเรือจากบ่อม่วงถึงเกาะบูบู
(๓) นั่งรถจากตัวเมืองกระบี่ ถึงท่าเรือบ้านโล๊ะใหญ่แล้ว
โดยสารเรือจากบ้านโล๊ะใหญ่ถึงเกาะบูบู
(๔)นั่งเรือจากตัวเมืองกระบี่ถึงหลังเกาะลันตาแล้วนั่ง
ภาพฝูงปลาบนเกาะบูบู |
ซึ่งการโดยสารเรือจากเกาะลันตาไปเกาะบูบูเส้นทางสายที่ ๑
จะสะดวกที่สุดเพราะเป็นแหล่งชุมชน ส่วนเส้นทางสายที่ ๒
และ ๓ จะเร็วกว่า หากได้นัดหมายติดต่อให้เรือที่เกาะไปรับ
หรือเหมาเรือไปเอง
รับชมคลิปวีดีโอเที่ยวจังหวัดกระบี่
...................................................................................................................
ภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย
(จุดชมวิว ) |
ภูชี้ฟ้า อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่อิงฝั่งขวาและป่าแม่งาวจังหวัเชียงราย อยู่ในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ หรือพื้นที่ป่าประมาณ 2,500 ไร่ โดยกรมป่าไม้ได้มีคำสั่งจัดตั้งเป็นวนอุทยานเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2541 ภูชี้ฟ้าเป็นยอดเขาสูงในเทือกเขาดอยผาหม่น ติดชายแดนไทย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 1,200 เมตร ถึง 1,628 เมตร
จุดสูงสุดคือ บริเวณจุดชมวิว มีความลาดชันเฉลี่ยทั่วพื้นที่ประมาณ 40 เปอร์เซนต์
สำหรับไฮไลท์สำคัญของภูชี้ฟ้า ต้องยกให้จุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม อีกทั้งทิวทัศน์ของภูเขาสลับซับซ้อนดูกว้างไกล โดยในตอนเช้าจะมีทะเลหมอกปกคลุมในหุบเขาเบื้องล่าง มีพระอาทิตย์ขึ้นผ่านพ้นทะเลหมอก ท่ามกลางทุ่งหญ้า แซมด้วยทุ่งดอกโคลงเคลง (ในช่วงฤดูฝนไปจนถึงฤดูหนาว) สวยงามราวกับภาพวาด อย่าบอกใครเชียว!!! และหากรอจนสายหมอกถูกความร้อนระเหยหมดแล้ว ก็ยังคงมองเห็นสายน้ำโขงไหลคดเคี้ยว ท่ามกลางป่าไม้ของฝั่งลาวที่เขียวสุดสมบูรณ์อีกด้วย หากมาเที่ยวภูชี้ฟ้า ในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม เส้นทางขึ้นภูชี้ฟ้าจะผ่านป่าซากุระหรือต้นพญาเสือโคร่งสีชมพูสวยงามมากอีกเช่นกัน
การเดินทาง
• รถยนต์ ภูชี้ฟ้าอยู่ห่างจากอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ประมาณ 144 กิโลเมตร การเดินทางจากอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ไปยังภูชี้ฟ้าได้ตามแนวเส้นทางดังนี้
1.จากอำเภอเมืองเชียงรายไปอำเภอเทิง ผ่านสามแยกโรงเรียนภูซางวิทยาคม บ้านสบบงและสามแยกบ้านม่วงชุมแล้วเดินทางต่อไป ก็จะถึงภูชี้ฟ้า
2.ไปตามทางหลวงจังหวัดสาย 1093 ผ่านน้ำตกภูซาง ด่านบ้านฮวก ศูนย์ส่งเสริมเกษตรที่สูงดอยผาหม่น ผ่านจุดท่องเที่ยวได้แก่ น้ำตกภูซาง (อุทยานแห่งชาติภูซาง) และศูนย์ส่งเสริมเกษตรที่สูงดอยผาหม่น ทดลองและส่งเสริมปลูกไม้ดอกเมืองหนาว เช่น ทิวลิป ลิลลี
• วนอุทยานภูชี้ฟ้า ไม่มีบ้านพักหรือค่ายพักแรมบริการแก่นักท่องเที่ยว หากนักท่องเที่ยวมีความประสงค์จะไปพักแรม โปรดนำเต็นท์ไปกางเอง โดยทางวนอุทยานได้จัดสถานที่ไว้ให้พร้อมกับห้องสุขา ส่วนเรื่องอาหารต้องจัดเตรียมไปเอง แล้วไปติดต่อขออนุญาตใช้สถานที่กับเจ้าหน้าที่ที่หัวหน้าวนอุทยานภูชี้ฟ้าโดยตรง รายละเอียดสอบถามได้ที่สำนักบริหารจัดการในพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 จังหวัดเชียงราย โทร. (053) -714914 หรือฝ่ายจัดการวนอุทยาน สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 โทร. 0-25614292 -3 ต่อ 719
• วนอุทยานภูชี้ฟ้า สำนักบริหารจัดการในพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย
โทร. (053) 714914
ตัวอย่างคลิปวีดีโอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวภูชี้ฟ้า
...................................................................................................................
ทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ
อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่านายางกลัก จังหวัดชัยภูมิ มีสภาพป่าสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของลุ่มน้ำชีและแม่น้ำป่าสัก มีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะทุ่งดอกกระเจียว มีพื้นที่ประมาณ 112 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 70,000 ไร่
ลักษณะภูมิประเทศ • ลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขา ประกอบไปด้วยภูเขาต่าง ๆ เช่น เขาพังเหย มีความสูงประมาณ 200-800 เมตร ทางธรณีวิทยาของพื้นที่เป็นหมวดหินภูพานหมวดหินพระวิหาร และหมวดหินภูกระดึง เป็นหินในระหว่างช่วงเวลาประมาณ 180-230 ล้านปี ยุคจูแลสสิกและไทรแอสสิก เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารลุ่มน้ำชี (แม่น้ำชี) ลำน้ำสนธิซึ่งไหลลงแม่น้ำป่าสัก
พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า
• สภาพป่าเป็นป่าเต็งรังผสมผลัดใบป่าดิบแล้ง มีไม้เหียงเป็นไม้เด่น และมี เต็ง รัง พยอม ก่อ กะบก ประดู่ อินทนิลบก ส้าน ฯลฯส่วนสัตว์ป่า ได้แก่ เก้ง หมูป่า กระต่ายป่า นิ่ม เม่น อ้น อีเห็น กระรอก ลิง ฯลฯ • ทุ่งดอกกระเจียวกระเจียวเป็นพืชล้มลุกประเภทหัว พบเป็นพันธุ์ไม้ประจำถิ่นที่ขึ้นมากที่สุดในประเทศไทย ณ แห่งนี้ ปกติจะพบขึ้นกระจายทั่วไปตั้งแต่ลานหินงามจนถึงจุดชมวิวสุดแผ่นดิน 1 กิโลเมตร ดอกกระเจียวจะขึ้นและบานเป็นสีชมพูอมม่วงในช่วงต้นฤดูฝนเท่านั้น คือ เดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี • ลานหินงามเป็นลานหินที่มีรูปร่างแปลกในพื้นที่กว่า 10 ไร่ เกิดจากการกัดเซาะเนื้อดินและหินในส่วนที่จับตัวกันอย่างเบาบางหลุดออกไป นานวันเข้าจึงเกิดโขดหินที่มีรูปลักษณ์แตกต่างกันมองดูสวยงามเป็นที่อัศจรรย์ สำหรับลานหินงามนี้อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของพื้นที่ทำการอุทยานแห่งชาติมีทางรถยนต์เข้าถึง • จุดชมวิวสุดแผ่นดินเป็นหน้าผาสูงชันและเป็นจุดที่สูงสุดของเทือกเขาพังเหย ซึ่งอยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม (846 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง) ซึ่งเกิดจากการยกตัวของพื้นที่เป็นที่ราบสูงภาคอีสานจึงเป็นรอยต่อระหว่างภาคกลางกับภาคอีสาน ทำให้เรียกบริเวณนี้ว่า “สุดแผ่นดิน” ณ จุดนี้จะเห็นทิวทัศน์ของสันเขาพังเหยและเขตพื้นที่ป่าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา จุดชุมวิวนี้อยู่ทางด้านทิศเหนือของที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร
การเดินทาง
• รถยนต์ จากกรุงเทพฯเดินทางตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 ผ่านจังหวัดสระบุรีไปยังสามแยกพุแค แล้วเลี้ยวขวาไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 21 ไปยังบ้านลำนารายณ์ จากนั้นเลี้ยวขวาไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 205 เส้นทางลำนารายณ์-ลำสนธิ-เทพสถิต-หนองบัวโคก-นครราชสีมาเดินทางจากบ้านลำนารายณ์ประมาณ 48 กิโลเมตร ก่อนถึงที่ทำการอำเภอเทพสถิตประมาณ 1 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายไปอำเภอหนองบัวระเหว ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2354 ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร ถึงทางแยกซ้ายมือเข้าบ้านไร่ ใช้ระยะทางอีกประมาณ 14 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม
บ้านพักและสิ่งอำนวยความสะดวก
• อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ได้จัดสถานที่กางเต็นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยว
สถานที่ติดต่อ
• อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ตู้ ปณ. 2 ปทจ.เทพสถิตย์ อ.เทพสถิตย์ จ.ชัยภูมิ 36230 โทรศัพท์ : +66 (0) 1307 1673
รับชมคลิปวีดีโอน่าสนใจ
หรือต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม
...................................................................................................................
วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร จังหวัดเชียงใหม่
วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เป็นวัดที่มีความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์และเป็นวัดท่องเที่ยว ซึ่งเป็นที่รู้จักของประชาชนชาวไทยโดยทั่วไป ในฐานะที่เป็นวัดที่มีความศักดิ์สิทธิ์มากวัดหนึ่งของประเทศไทย ตั้งอยู่บนยอดดอยสุเทพห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 14 กิโลเมตร อยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเล 1,053 เมตร อยู่ในเขตตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
เป็นวัดสำคัญของเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางไปเชียงใหม่มักขึ้นไปนมัสการ จนมีคำขวัญชาวบ้านในสมัยก่อนว่าไปเชียงใหม่ต้อง “ไปกำแพงดิน กินข้าวซอย ขึ้นดอยสุเทพ” อีกทั้งคนเชียงใหม่เองยังเดินทางไปนมัสการอยู่เป็นประจำ ด้วยเชื่อว่าการขึ้นไปนมัสการอยู่เป็นประจำ ด้วยเชื่อว่าการขึ้นไปนมัสการพระธาตุ เสมือนกับการไปแสวงบุญ เนื่องจากสมัยก่อนการเดินทางขึ้นดอยนั้นทำได้ยาก พระธาตุดอยสุเทพยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีมะแมด้วย |
อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย อยู่ตรงบริเวณทางขึ้นพระธาตุดอยสุเทพ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเชียงใหม่ให้ความเคารพอย่างมาก ผู้ที่เดินทางขึ้นดอยสุเทพมักจะแวะนมัสการอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนเดินทางขึ้นดอย อนุสาวรีย์นี้สร้างขึ้นหลังจากที่ครูบาศรีวิชัยมรณภาพแล้วทางราชการและชาวเมืองเชียงใหม่ได้บริจาคทรัพย์ช่วยกัน โดยให้กรมศิลปากรเป็นผู้ออกแบบสร้าง เมื่อแล้วเสร็จได้นำมาประดิษฐานไว้ที่เชิงเขาห้วยแก้วอันเป็นจุดเริ่มต้นขึ้นดอยสุเทพดังที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน
บันไดนาค จากลานจอดรถจะขึ้นสู่พระธาตุ มีบันไดนาคเจ็ดเศียร เป็นปูนปั้นประดับกระจก นักท่องเที่ยวนับแต่อดีตจนปัจจุบันนิยมถ่ายภาพกับเศียรพญานาคเป็นที่ระลึก ว่ากันว่าบันไดนาคมีถึง 306 ขั้น แต่เท่าที่นับได้จริงๆ มี 185 ขั้น ผู้ที่จะขึ้นไปนมัสการพระธาตุต้องเดินขึ้นบันไดนาคนี้ทุกคน
เจดีย์วัดพระธาตุดอยสุเทพ เป็นเจดีย์ทรงเชียงแสน มีฐานสูงย่อมุมระฆังทรงแปดเหลี่ยม และมีบัลลังก์แปดเหลี่ยม ทั้งองค์ปิดด้วยทองจังโก (ดีบุกปิดทอง) บริเวณที่ประดิษฐานองค์เจดีย์ยกพื้นสูงเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีวิหารทิศอยู่ทางด้านตะวันตก มีระเบียงรอบองค์พระธาตุเชื่อมวิหารทั้งสี่องค์ ภายในมีภาพพุทธประวัติ รอบบริเวณสะอาดและร่มรื่น เมื่อมองจากบริเวณเจดีย์ลงมาจะเห็นวิวทิวทัศน์สวยงามของตัวเมืองเชียงใหม่ โดยเฉพาะช่วงหัวค่ำมีแสงไฟจากตัวเมืองระยิบระยับ
ประเพณีเดินขึ้นดอยสุเทพ เป็นประเพณีที่ถือปฏิบัติสืบทอดกันมาแต่อดีต ในคืนก่อนวันวิสาขบูชาของทุกปี ชาวบ้านจะเดินทางด้วยเท้า ถือประทีปธูปเทียนเป็นริ้วขบวน ประกอบด้วยพระสงฆ์ซึ่งเดินนำหน้าขบวน และประชาชนเดินตามหลัง เริ่มขบวนที่บริเวณอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ใกล้กับวัดศรีโสดา ในอดีตจะแวะนมัสการวัดสักกิทาคา และวัดอนาคามี แต่ปัจจุบันวัดทั้งสองร้างไปแล้ว ขบวนจึงเดินขึ้นไปนมัสการที่วัดพระธาตุโดยตรง
ที่เที่ยวอื่น ๆ วัดพระธาตุดอยสุเทพอยู่ในพื้นที่ของ อช.ดอยสุเทพ-ปุย ซึ่งมีที่เที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง เช่น พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ หมู่บ้านแม้วดอยปุย ฯลฯ นักท่องเที่ยวมักนิยมขึ้นไปเที่ยวหลังจากนมัสการพระธาตุแล้ว
คลิปวีดีโอแนะนำ
รายละเอียดเพิ่มเติม http://www.thailands360.com/Northern/Chiang
...................................................................................................................
สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
สวนผึ้ง เป็นอำเภอหนึ่งของ จังหวัดราชบุรี ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ทั้งป่าไม้ ภูเขา และน้ำตก พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นที่ราบสูง ภูมิประเทศของสวนผึ้งนั้นขนาบด้วยเทือกเขาตะนาวศรี ซึ่งเป็นพรมแดนทางตะวันตกกั้นระหว่างประเทศไทยกับพม่า การเดินทางสะดวก ใช้เวลาเดินทางเพียง 2 ชั่วโมงกว่า ๆ จากกรุงเทพฯ ก็ถึงแล้ว
สถาน ที่ท่องเที่ยวมีความหลากหลาย ทั้งจากธรรมชาติสร้างและฝีมือมนุษย์รังสรรค์ ที่สำคัญมาเที่ยวกันได้ตลอดทั้งปีโดยเฉพาะหน้าหนาวอากาศจะดีมาก ๆ บ้างก็ว่าเหมือนกับอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน บ้างก็ว่าเหมือนประเทศนิวซีแลนด์ ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจก็มีอยู่มากมายหลายแห่ง
บ้านเทียนหอม
เมื่อออกมาจากโป่งยุบตรงมาเรื่อย ๆ ถึงหลักกิโลเมตรที่ 33 เราก็จะได้พบกับสถานที่ท่องเที่ยว ที่อบอวลไปด้วยความหอมละมุนไปทั่วสถานที่ ด้านหน้ามีร้านเสื้อเพ้นท์สดลวดลายสวยงามน่ารัก ใส่แล้วไม่ซ้ำใครแน่นอนเพราะเค้าเพ้นท์มาแบบละตัวเท่านั้น พื้นที่กว้างขว้างมีมุมน่ารัก ๆ ให้โพสต์ท่าถ่ายรูปกันอยู่หลายจุด บริเวณภายในร้านจะจุดเทียนหอมและเปิดเพลงเบา ๆ เพื่อสร้างบรรยากาศในการเดินเล่ นให้ความรู้สึกถึงการพักผ่อนได้เป็นอย่างดี มีการนำของสะสมข้าวของเครื่องใช้ในอดีตมาจัดวาง เพื่อเพิ่มเสน่ห์ให้เราได้ย้อนนึกถึงวันวานกันอีกด้วย
The Scenery Resort & Farm
ขับตรงขึ้นไปจากบ้านหอมเทียน จะเจอสามแยกให้เบี่ยงออกไปทางซ้ายแยกภูผาผึ้งรีสอร์ท ขับตรงไปอีกประมาณ 5 กิโลเมตร เราก็จะได้พบกับสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นที่ที่ทำให้คนรู้จักสวนผึ้งกันอย่างแพร่หลาย The Scenery Resort & Farm รีสอร์ทสวย ที่มีสนามหญ้าเขียวสด ลายล้อมด้วยภูเขาสลับซับซ้อนและฝูงแกะสีขาวหลายสิบตัว ที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างน่ารัก
แน่นอน! กิจกรรมที่พลาดไม่ได้คือ การให้อาหารแกะรวมถึงการถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับน้องแกะนั่นเอง นอกจากนี้ ยังมีมุมสวย ๆ ที่ทางรีสอร์ทได้เซ็ทอัพขึ้นเพื่อให้ได้ถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน แกะที่นี่จะเป็นพันธุ์ผสมชื่อว่า พันธ์คาทาดิน ซึ่งมีความทนต่อสภาพภูมิอากาศ เปิดให้บริการทุกวัน : วันจันทร์-ศุกร์ 10.00-18.00 น. / เสาร์-อาทิตย์ 9.00-18.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทรศัพท์ 08-5488-9905
ธารน้ำร้อนบ่อคลึง
ตรงขึ้นไปจากซีนเนอร์รี่ฯ เจอสามแยกให้เลี้ยวขวาแล้วขับรถตรงขึ้นไปอีก สังเกตซ้ายมือจะมีป้ายธารน้ำร้อนบ่อคลึง ลักษณะเป็นลำธารเล็ก ๆ มีน้ำไหลซึมออกมาจากตาน้ำใต้ดินไม่ขาดสาย ถ้าขึ้นไปดูที่ต้นน้ำจะพบก้อนหินใหญ่เล็กเรียงลายไปมา ดูสวยงามตามธรรมชาติ มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาตะนาวศรี มีน้ำไหลตลอดปี อุณหภูมิของน้ำจะประมาณ 65 องศาเซลเซียส ไม่ร้อนมากพอที่จะต้มไข่สุกได้
บริเวณต้นน้ำจะมีบ่อแยกเก็บน้ำไว้ให้ชาวบ้านดื่ม-กิน จากบ่อดินด้านล่างสามารถเดินไปที่ต้นธารน้ำร้อนประมาณ 150 เมตร ธารน้ำร้อนบ่อคลึงเป็นสถานที่ของเอกชน ผู้ค้นพบ คือ นายประยูร โมนยะ เปิดบริการวันจันทร์-ศุกร์ เปิดตั้งแต่เวลา 08.00–17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00–18.00 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ โทรศัพท์ 0-327- 1086
ดูคลิปวีดีโอแนะนำสวนผึ้ง
ต้องการดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://travel.kapook.com/view20110.html
....................................................................................